การป้องกันภัยต่างๆจากอินเตอร์เน็ตที่เกิดอันตรายต่อเด็กและเยาวชน


อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือที่สำคัญในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านกิจการงานต่างๆ ด้านการศึกษาหาความรู้ รวมถึงด้านการหาความสุขสนุกสนานก็สามารถทำได้ผ่านอินเทอร์เน็ต จากการที่อินเทอร์เน็ตช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้คนทั่วโลกทำให้มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องอินเทอร์เน็ตก็อาจจะเปรียบได้กับเหรียญที่มีสองด้าน คือ ด้านหนึ่งหากใช้อินเทอร์เน็ตไปในทางที่ถูกต้องเหมาะสมก็เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะได้รับประโยชน์จากการใช้อินเทอร์เน็ตได้มากมายมหาศาล อีกด้านหนึ่งในทางตรงกันข้ามหากใช้ไปในทางที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมก็อาจจะเกิดโทษโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเยาวชนและคนวัยรุ่นที่อาจจะยังมีวุฒิภาวะไม่มากพอที่จะคัดกรองและควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตของตนจนทำให้เป็นโรค ติดอินเทอร์เน็ต

นอกจากอาการของโรคติดอินเทอร์เน็ตแล้วอาจมีความเสี่ยงและภัยอันตรายต่างๆ จากอินเทอร์เน็ตที่ควรมีมาตรการในการป้องกันและระมัดระวังภัยต่างๆ โดยศูนย์ออนไลน์เพื่อการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก (ChildExploitation and Online Protection Center)เปิดเผยว่าอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจึงควรมีนโยบายในการป้องกันให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยอันตรายกับเด็กให้น้อยที่สุด พ่อแม่ผู้ปกครองควรจะต้องระมัดระวังและตระหนักถึงอันตรายและภัยร้ายแอบแฝงต่างๆ จากอินเทอร์เน็ตและทำให้อินเทอร์เน็ตมีความปลอดภัยมากที่สุดสำหรับเด็ก โดยมีรายงานการสำรวจจาก “ออฟคอม (Ofcom)”ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านโทรคมนาคมของอังกฤษว่า ร้อยละ 80 ของเด็กที่มีอายุระหว่าง 5 – 7 ปี ใช้อินเทอร์เน็ต และร้อยละ 94 ของเด็กที่อายุระหว่าง 9 – 11 ปี ใช้อินเทอร์เน็ตนับว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดอาการเสพติดอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้พ่อแม่ผู้ปกครองร้อยละ 25 ระบุว่า มีความกังวลกับการท่องอินเทอร์เน็ตของเด็กเยาวชนทั้งหลายว่าจะเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและถูกหลอกลวงจากการสนทนาผ่านอินเทอร์เน็ตกับคนแปลกหน้า

ภัยต่างๆ จากอินเทอร์เน็ตสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อเด็กและเยาวชนที่ยังไม่สามารถตัดสินใจเองได้ว่าสิ่งใดถูกหรือสิ่งใดผิด สิ่งไหนควรทำหรือสิ่งไหนไม่ควรทำ และมองข้ามถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากอินเทอร์เน็ต

แนวทางการแก้ปัญหาและป้องกันการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างไม่เหมาะสม
มีผู้แสดงทัศนะว่าในปัจจุบันนี้วัยรุ่นไทยมักจะใช้อินเทอร์เน็ตไปเพื่อความบันเทิงที่ไม่มีสารประโยชน์มากนักที่นิยมมากก็เห็นจะเป็นการเข้าห้องสนทนาChat room และหัวข้อสนทนาที่พบกันโดยทั่วไปมักเป็นเพียงการพูดคุยหยอกล้อสนุกสนานสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะข้อจากัดด้านภาษาจึงทาให้เด็กไทยไม่รู้สึกสนุกที่จะสืบค้นหาความรู้จากเว็บไซต์ต่างๆที่มีอยู่มากมายเนื่องจากเว็บไซต์เหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษดังนั้นทางออกของปัญหานี้คือจะต้องมีการส่งเสริมให้มีการสร้างเว็บไซต์ภาษาไทยที่มีสารประโยชน์ซึ่งจะช่วยให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกด้วยก็จะสามารถช่วยลดปัญหาการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างไม่เหมาะสมให้ลดน้อยลงไปได้

ส่วนกรณีของการล่อลวงโดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อนั้นคงต้องอาศัยพ่อแม่ผู้ปกครองและครู-อาจารย์ต้องช่วยกันอบรมดูแลให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงภัยร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้และไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้มีเจตนาร้ายโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
1. แนวทาง4 ประการสาหรับผู้ปกครองของเยาวชน
1. ต้องเรียนรู้ที่จะร่วมเล่นอินเทอร์เน็ตด้วยกันกับบุตรหลานเพื่อศึกษาการใช้อินเทอร์เน็ตของพวกเขาว่าสนใจไปในทางใดและเรื่องใด(อย่ากลัวที่จะเรียนรู้เพราะไม่มีใครแก่เกินเรียน)
2. สอนให้บุตรหลานได้รู้จักศิลปะป้องกันตัว7 ประการจากภัยร้ายบนอินเทอร์เน็ต
3. พูดคุยทาความเข้าใจกับบุตรหลานเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตของเขาเช่นเวลาที่ใช้จานวนชั่วโมงที่ใช้ประเภทของเว็บไซต์และกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตที่เข้าร่วมได้
4. วางเครื่องคอมพิวเตอร์สาหรับการต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ตไว้ในที่เปิดเผยทุกคนมีส่วนร่วมได้เช่นห้องนั่งเล่นห้องรับแขกอย่าวางในที่รโหฐานเช่นห้องนอนหรือห้องส่วนตัวของพวกเขา

This entry was posted in อินเตอร์เน็ต and tagged . Bookmark the permalink.

Comments are closed.